มีกระแสข่าวว่า Apple ซุ่มพัฒนา ipad 2 เพื่อเตรียมสู่ศึก Tablet ในปี 2011 ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่ละค่ายก็งัดของดีออกมาโชว์ ขณะที่ Apple กำลังพัฒนา ipad 2 มาสู้ศึกในครั้งนี้ หลังจากในปี 2010 เจ้า ipad ทำยอดขายได้ถึง 14.79 ล้านเครื่อง นับว่าเป็นยอดขายแท็บเล็ตที่สูงที่สุดในโลก

หลังจากที่ สตีฟ จ๊อบ ไปซุ่มพัฒนาอยู่นั้น นักวิเคราะห์คาดว่า ipad 2 จะมีขนาดเครื่องที่บางและเบาเพียง 9.4 x 240.8 x 85.5 มม.  อีกทั้งสามารถลดการสะท้อนแสงซึ่งเป็นปัญหาของผู้ใช้ ipad ในปัจจุบัน และยังจะเปลี่ยนการเชื่อมต่อแบบเข็ม 30-pin เป็น Port Mini USB แทน ชิปประมวณผล ipad 2 จะใช้ A5 Dual core Processor จอภาพ จะใช้เทคโนโลยี Retina Display และยังมีกล้องหน้าสำหรับเล่น FaceTime และกล้องหลังขนาด 1 ล้านพิกเซล พร้อมกับมีช่องใช่ microSD นอกจากนี้ ipad 2 ยังสามารถรองรับทั้งเครือข่าย GSM และ CDMA อีกด้วย

ที่มา : http://www.itday.in.th/

Web Technology

HTML editor : ใช้ในการพัฒนาเว็บไซต์ ซึ่งต้องทราบ tag คำสั่งต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ Notepad, Notepad++, editplus เป็นต้น

Web Generator : เป็นเครื่องมือสำเร็จรูปเพื่อช่วยในการทำเว็บไซต์ เช่น โปรแกรม Dreamweaver,MS.   Frontpage, Adobe GoLive

CMS : เป็นการพัฒนาต่อเนื่องเพราะผู้ใช้ต้องรู้จัก

–         HTML

–         Web Programming (PHP,ASP,Java,Ajax)

–         ฐานข้อมูล (Microsoft Access, Microsoft SQL,MySQL, ProgreSQL)

–         การรักษาความปลอดภัย

–         ระบบเครือข่าย

–         เป็นเครื่องมือสำเร็จรูปที่รวมเอา PHP+Web Programming+Database เข้าด้วยกัน

–        ใช้งานง่าย โดยไม่ต้องรู้ระบบ (เบื้องต้น)

– เป็นการเน้นการจัดการเนื้อหาบนเว็บ : แบ่งหมวดหมู่

:    สืบค้นตามหมวดหมู่

:    แสดงสถิติการเข้าชม

Blog : เป็นเว็บไซต์ที่เป็นเว็บประเภทหนึ่งที่แสดงผลเนื้อหา โดยการควบคุมด้วยวันที่/เวลา เป็นตัวขับเคลื่อน

Blog = weB+Log (เป็นวันที่/เวลาดำเนินการหรือทำกิจกรรมหรือเหตุการณ์ใดๆ)

Web : ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเองได้ ซึ่งแตกต่างจาก Blog คือ การแสดงเนื้อหา ผู้ใช้สามารถแก้ไข กำหนดให้สิ่งไหนมาก่อนและหลังได้

Wiki : เว็บประเภทหนึ่งที่เน้นความเร็วในการนำเข้าข้อมูล สิ่งที่เป็นข้อห้ามคือ ห้ามตกแต่ง เน้นพิมพ์อย่างเดียว

– สามารถเก็บประวัติการแก้ไข,สร้างและเรียกคืนได้

ECM : Enterprise content management เหมาะสำหรับภาคธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะเป็นการนำเอาความสามารถ อย่าง Joomla+Blog+Wiki มาทำเว็บไซต์เพื่อนำเสนอ เช่น Alfresco, Knowledge Tree

การพัฒนา

– ศึกษาความต้องการของตนเอง

– รู้จักกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งต้องรู้เทคโนโลยี ว่า ใช้ OS อะไร ใช้ Device อะไร หรือ ใช้ Browser อะไร เป็นต้น

– เลือกซอฟต์แวร์ที่มีความเหมาะสม

– พัฒนาเว็บ ซึ่งต้องมีทั้งเว็บที่เป็นเว็บจำลองและเว็บที่ใช้จริง ข้อเสียคือ ต้อง Config ระบบค่ะ

– เลือก Extension

– ปรับปรุงเว็บ เช่น การเขียน Extension เพิ่มเอง (ต้องรู้ Code HTML) หรือการใช้ CSS เข้ามาช่วย เช่น

– Graphics จะใช้โปรแกรม Photoshop หรือ Illustrator เข้ามาช่วย

– การประชาสัมพันธ์ เช่น Search engine Optimize, Web 2.0

– Mutimedia เช่น โปรแกรม Flash

– กำหนดข้อกำหนด เช่น การใส่เครื่องหมายของ Keywords

– สรุปผลและวิเคราะห์ ควรติดตั้ง Web software analytics เช่น Truehits, Google Analytics เพื่อให้ทราบจำนวนของผู้ใช้จริง

ระบบการจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์ (Content Management System : CMS) คือ ระบบที่พัฒนา คิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยลดทรัพยากรในการพัฒนา(Development) และบริหาร(Management)เว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกำลังคน ระยะเวลา และเงินทอง ที่ใช้ในการสร้างและควบคุมดูแลไซต์ โดยส่วนใหญ่แล้ว มักจะนำเอา ภาษาสคริปต์(Script languages) ต่างๆมาใช้ เพื่อให้วิธีการทำงานเป็นแบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น PHP, Perl, ASP, Python หรือภาษาอื่นๆ(แล้วแต่ความถนัดของผู้พัฒนา) ซึ่งมักต้องใช้ควบคู่กันกับโปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์(เช่น Apache) และดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์(เช่น MySQL)

ลักษณะเด่นของ CMS ก็คือ มีส่วนของ Administration panel(เมนูผู้ควบคุมระบบ) ที่ใช้ในการบริหารจัดการส่วนการทำงานต่างๆในเว็บไซต์ ทำให้สามารถบริหารจัดการเนื้อหาได้อย่างรวดเร็ว และเน้นที่การ จัดการระบบผ่านเว็บ(Web interface) ในลักษณะรูปแบบของ ระบบเว็บท่า(Portal Systems) โดย ตัวอย่างของฟังก์ชันการทำงาน ได้แก่ การนำเสนอบทความ(Articles), เว็บไดเรคทอรี(Web directory), เผยแพร่ข่าวสารต่างๆ(News), หัวข้อข่าว(Headline), รายงานสภาพดินฟ้าอากาศ(Weather), ข้อมูลข่าวสารที่น่าสนใจ (Informations), ถาม/ตอบปัญหา (FAQs), ห้องสนทนา (Chat), กระดานข่าว (Forums), การจัดการไฟล์ในส่วนดาวน์โหลด (Downloads), แบบสอบถาม (Polls), ข้อมูลสถิติต่างๆ (Statistics) และส่วนอื่นๆอีกมากมาย ที่สามารถเพิ่มเติม ดัดแปลง แก้ไขแล้วประยุกต์นำมาใช้งานให้เหมาะสมตามแต่รูปแบบและประเภทของเว็บไซต์นั้นๆ

ดูเพิ่มเติม     http://www.mindphp.com/บทความ/24-cms-php/155-cms-คืออะไร.html

หลายๆ ท่านคงจะคุ้นเคยกับ Barcode อยู่แล้ว แต่ไม่ทราบว่าคืออะไร จริงๆ แล้ว 2D Barcode (two-dimensional bar code) ก็คือ Barcode ประเภทหนึ่ง แต่สามารถบรรจุอักขระได้ทั้งข้อความ ตัวเลข และสัญลักษณ์มากกว่า Barcode ปกติ และสามารถเก็บข้อมูลได้ 2 ทิศ คือ แนวตั้งและแนวนอน ในขณะที่ Barcode ปกติ จะเก็บเพียงแนวเดียว (มักจะเป็นแนวนอน) 2D Barcode คือ two-dimensional bar code หรือบางครั้งก็เรียกว่า QR Code (Quick Respond Code) เป็นรูปแบบหนึ่งของ Barcode ที่คิดค้นขึ้นในปี 1994 โดยบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น Denso-Wave และได้จดทะเบียนลิขสิทธิ์ชื่อ QR Code ไปแล้วทั้งในญี่ปุ่น และทั่วโลก อันเป็นนวัตกรรม Barcode ที่มีการตอบสนองที่รวดเร็ว ซึ่งมาจากความตั้งใจของผู้คิดค้น ที่จะให้ QR Code นี้สามารถถูกอ่านได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง แม้กระทั่งการอ่านจากโทรศัพท์มือถือ

ในวงการห้องสมุด ศูนย์บริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้นำ 2D Barcode มาประยุกต์ใช้ในเก็บข้อมูลบรรณานุกรมหนังสือ (CIP) และข้อมูลการยืม/คืนหนังสือของ สวทช. ทดแทนการใช้ RFID ที่มีราคาแพง

ตัวอย่าง 2D Barcode หนังสือของ สวทช.

ดูเพิ่มเติม  http://www.neutron.rmutphysics.com/news/index.php?option=com_content&task=view&id=1967&Itemid=3

____________________________________________________________________________________________

Autodesk 3ds Max 2011

Posted: มกราคม 14, 2011 in เทคโนโลยี
ป้ายกำกับ:,

ออโตเดสก์, อิงค์ (NASDAQ: ADSK) เผยโฉมซอฟท์แวร์ Autodesk 3ds Max 2011 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของที่สุดแห่งการทำโมเดล 3 มิติ อะ นิเมชั่น เรนเดอริ่ง และคอมโพซิติ้ง แอพพลิเคชั่น (compositing application) พร้อมฟีเจอร์โนด – เบส แมทเทอร์เรียล อีดิทเตอร์ (node-based material editor) ฮาร์ดแวร์สำหรับการเรนเดอร์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ พร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมายในรีลีสใหม่นี้ เพื่อช่วยให้การสร้างสรรค์ภาพ และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอนเทนท์ต่างๆเป็นไปอย่างง่ายดาย และรวดเร็ว

“จุดเด่นประการแรกของ 3ds Max 2011 ของเราที่อาร์ติสท์ทั้งหลายจะได้รับ คือ ประสิทธิภาพการทำงานขั้นสูงเพื่อช่วยให้การสร้างสรรค์ผลงานในทุกๆ วันของคุณมีแต่ความคล่องตัว และลื่นไหล” สติก กรูแมน (Stig Gruman) รองประธานอาวุโส ฝ่ายมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนต์   ออโตเดสก์ กล่าว “เราได้มีการสร้างส่วนหลักของซอฟท์แวร์ใหม่อีกครั้ง รวมถึงโนด-เบส แมทเทอร์เรียล อิดิเตอร์ ที่มีคนเรียกร้องมามากที่สุด ให้มีความคล่องตัวในการทำงานเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มฟีเจอร์เพิ่มเติมเข้ามามากมาย เช่น เครื่องมือเพนท์ (painting tools) และควิกซิลเวอร์ ฮาร์ดแวร์เรนเดอร์เรอร์ (Quicksilver hardware renderer) เพื่อช่วยขจัดอุปสรรคด้านเวลาในการทำงานโดยไม่ต้องมีอะไรมาขวางกั้นกระบวน การคิดสร้างสรรค์และการออกแบบชิ้นงานที่มีคุณภาพ”

ดูเพิ่มเติม  http://men.mthai.com/technology/content/3356

____________________________________________________________________________________________

เทคโนโลยี 4จี เป็นเครือข่ายไร้สายความเร็วสูงชนิดพิเศษ หรือเป็นเส้นทางด่วนสำหรับข้อมูลที่ไม่ต้องอาศัยการลากสายเคเบิล โดยระบบเครือข่ายใหม่นี้ จะสามารถใช้งานได้แบบไร้สาย รวมถึงคุณสมบัติการเชื่อมต่อเสมือนจริงในรูปแบบสามมิติ (three-dimensional) ระหว่างผู้ใช้โทรศัพท์ด้วยกันเอง นอกจากนั้น สถานีฐาน ซึ่งทำหน้าที่ในการส่งผ่านสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่จากเครื่องหนึ่งไปยังอีก เครื่องหนึ่ง และมีต้นทุนการติดตั้งที่แพงลิ่วในขณะนี้ จะมีให้เห็นกันอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกับหลอดไฟฟ้าตามบ้านเลยทีเดียว สำหรับ 4จี จะสามารถส่งผ่านข้อมูลแบบไร้สายด้วยระดับความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้นถึง 100 เมกะไบต์ต่อวินาที ซึ่งห่างจากความเร็วของชุดอุปกรณ์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ที่ระดับ 10 กิโลบิตต่อวินาที

ดูเพิ่มเติม http://www.saksit.com/2009/11/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5-4g/

____________________________________________________________________________________________

โอเพนซอร์สซอฟต์แวร์สำหรับห้องสมุดอัตโนัมัติแบบบูรณาการ เริ่มเข้ามามีบทบาทและแพร่หลายมากขึ้น ในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง Koha เป็นโอเพนซอร์สซอฟต์แวร์ในการจัดการห้องสมุดอัตโนมัติแบบบูรณาการระบบแรกที่ สามารถนำมาพัฒนาประยุกต์ใช้ได้เทียบเท่ากับโปรแกรมระบบห้องสมุดเชิงพาณิชย์ แม้ว่าฟังก์ชั่นการทำงานจะยังทำได้ไม่ครบ หรือเพียบพร้อมเท่ากับระบบเชิงพาณิชย์ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า ห้องสมุดที่ใช้โปรแกรมเชิงพาณิชย์เหล่านี้ก็ไม่ได้ใช้ฟังก์ชั่นการทำงานได้ ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ที่โปรแกรมมีให้เพราะฉะนั้น การที่นำโปรแกรมที่มีศักยภาพในการจัดการะบบห้องสมุดได้ใกล้เคียงกับโปรแกรม เชิงพาณิชย์ แต่เสียค่าใช้จ่ายไม่มากเท่า น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่นำมาพิจารณา

Koha ทำงานบนระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ วินโดว์ ระบบจัดการฐานข้อมูล MySQL หรือ PostgreSQL ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งในส่วนระบบ และส่วนของผู้ใช้งาน และมีซอฟต์แวร์บริการเว็บเป็น Apache ซึ่งล้วนแต่เป็นซอฟต์แวร์แบบเปิดเผยรหัสและไม่คิดค่าลิขสิทธิ์ โปรแกรม Koha ทำงานได้บนสถาปัตยกรรมแบบ Client/Server โดยใช้ Perl เป็นตัวพัฒนาในการเข้าถึงข้อมูลและเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล สามารถนำไปใช้งานในการยืม-คืน การค้นหาข้อมูล และรองรับการใช้งานในห้องสมุด

ดูเพิ่มเติม  http://www.nstda.or.th/index.php/nstda-knowledge/473-koha

____________________________________________________________________________________________

Hello !

Posted: มกราคม 4, 2011 in Uncategorized

@ STKS

นางสาวพัชราภรณ์ สุขสวัสดิ์ 503080172-9

นางสาวบุญยรัตน์ ชาพล 503080417-5

นักศึกษา สาขาสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์

มหาวิทยาลัยขอนแก่น